มีหลายคนได้กล่าวไว้ว่า
“ชีวิตแห่งการเป็นนักศึกษาในรั้วมหาลัยนั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด” มันเป็นช่วงเวลาที่ใช้ในการตักตวงทั้งความรู้และประสบการณ์ต่าง
ๆ ก่อนออกไปใช้ชีวิตจริงในสังคม
ช่วงเวลาที่ถูกำหนดไว้ ในรั้วมหาลัยไม่ว่าจะเป็นสองปี สี่ปี หรืออาจมากกว่านั้น
เราจะใช้มันให้คุ้มค่าได้อย่างไร
ก้าวแรกของการเข้ามาสู่รั้วมหาลัย ไม่มีใครรู้
ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเจอกับอะไร มีเพียงแต่เสียงกระสิบที่ว่า ลำบากนะ เหนื่อยนะ
ยากนะ สิ่งเหล่านี้ได้เป็นเสียงที่ดังกระจายไปทั่วสำหรับเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในรั้วมหาลัยอย่างผม สิ่งแรกที่ได้พบเจอคือ เพื่อนใหม่
การทักทายรอยยิ้มที่เขินอายของบุคคลที่ไม่รู้จักกัน เริ่มต้นขึ้น การแนะนำตัวระหว่างบุคคลสองคน สามคน และหลายๆ
คน ได้เพิ่มขึ้น ณ ที่แห่งนี้ จนกลายเป็นการพูดคุย สิ่งที่ผมกลัวสิ่งที่สองนอกจากการเจอบุคคลที่เรียกว่าเพื่อนใหม่แล้ว
เสียงกังวานในสมองของผมคือ การรับน้องใหม่
ซึ่งเป็นสิ่งที่มีการกล่าวถึงกันมากในการเข้ามาสู่รั้วมหาลัย บุคคลที่สำคัญในการรับน้องใหม่คือรุ่นพี่
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า เขาจะพยายามที่จะทักทาย โดยวิธีต่างๆ
โดยไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นแบบไหน
และน่ากลัวมากขนาดไหนจะเป็นเหมือนที่เสียงอ้างลือหรือไม่ ผมไม่อาจรู้ได้
การรับน้องใหม่เป็นการละลายพฤติกรรมของนักศึกษาใหม่ดังนั้นจึงรวมตัวของผมเองด้วย
ที่มาจากต่างที่ต่างถิ่นให้รักและสามัคคีกัน เพื่อการอยู่ร่วมกันในรั้วมหาลัย
จะมีการต้อนรับจากรุ่นพี่ในรูปแบบไหนนั้น ไม่มีใครสามารถรู้ได้
มีเพียงแต่กล่าวที่ว่า “ มาก่อนเป็นพี่
มาหลังเป็นน้อง มาพร้อมเป็นเพื่อน ” เป็นคำเตือนให้ผู้ที่เข้ามาใหม่ได้รับรู้และคำนึงอยู่ตลอดเวลาว่าต้องเคารพ
และรู้สถานะของตัวเอง
ช่วงเวลาที่ผ่านมาจากการรับน้อง การทำกิจกรรมต่าง ๆ
ทั้งด้านการเรียนและนันทนาการ ทำให้ผมเกิดความสนิทสนมระหว่างเพื่อนฝูง
ทั้งนอกและในคณะมากขึ้น ช่วงระหว่างการนั้นจะมีทั้งเรื่องที่เหนื่อยยาก ลำบาก
หรือแม้แต่ทุกข์ แต่ทุกอย่างมันย่อมผ่านไปได้ด้วยดี
เพราะความช่วยเหลือจากทั้งเพื่อน รุ่นพี่ และที่สำคัญคณาจารย์ที่ค่อยแลเราอยู่ห่างๆ ความช่วยเหลือทั้งด้านการเรียน กิจกรรม
หรือแม้แต่เรื่องส่วนตัว ที่ได้รับจากบุคคลเหล่านี้
มันทำให้ผมรู้สึกมีความอบอุ่นอีกอย่างหนึ่งที่ถ้าไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง
ก็จะไม่สามารถรับรู้มันได้เลย
มันเปรียบเสมือนอ้อมกอดจากครอบครัวซึ่งประกอบไปด้วยเพื่อนฝูง รุ่นพี่
และคณาจารย์ โดยมีรั้วมหาลัยเปรียบเสมือนบ้านเป็นเกราะป้อ
งกันจากภัยอันตรายต่าง ๆ
ที่จะมาทำร้ายและเป็นบ่อเกิดที่จะทำให้เราอยู่ในรั้วมหาลัยนี้ ดังนั้น ช่วงเวลานี้ สิ่งเหล่านี้ ที่ผมเรียนรู้มันคือประสบการณ์ชีวิตในรั้วมหาลัย
เพื่อนำไปใช้ในชีวิตจริงในสังคมต่อไป
 |
ข้างๆ พี่สาวคาบ
(อย่าคิดเป็นอย่างอื่นหล่ะ) |
หลายคนอาจจะคิดว่าการอยู่ในรั้วมหาลัยนั้นมันคงจะลำบาก
น่ากลัวหรือสนุกสนาน อิสระ แต่ใครหลายคนอาจจะคิดถูกหรือก็ได้
เพราะไม่มีใครรู้ว่าเมื่อเราเข้ามาในรั้วมหาลัยแล้ว เราจะเจอกับอะไร
เพราะการเข้ามาในรั้วมหาลัยนั้นก็เหมือนเรากำลังนั่งดูหนังเรื่องหนึ่ง
ซึ่งเราไม่อาจจะรู้ว่าตอนจบนั้นจะเป็นอย่างไร
ดังนั้นเราก็จะต้องติดตามดูมันจนจบเพื่อจะได้รู้ว่าผลสุดท้าย
เรื่องราวเหล่านี้จะจบที่นางเอกกับพระเอกจะรักกันไหมหรือว่าทั้งคู่จะตาย
เหมือนการเข้าไปสู่รั้วมหาลัย ผลสุดท้ายตอนจบเราจะได้เป็นอย่างที่เราได้วาดฝันไว้ก่อนเข้ามาสู่รั้วมหาลัยหรือไม่
หรือว่าเราจะอยู่ต่อในสิ่งที่เรียกว่า รั้วมหาลัย
 |
เพื่อนโผมเองคาบ เทพๆทั้งน้าน |