Powered By Blogger

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ชีวิตน้องใหม่


  มีหลายคนได้กล่าวไว้ว่า ชีวิตแห่งการเป็นนักศึกษาในรั้วมหาลัยนั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดมันเป็นช่วงเวลาที่ใช้ในการตักตวงทั้งความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ก่อนออกไปใช้ชีวิตจริงในสังคม   ช่วงเวลาที่ถูกำหนดไว้ ในรั้วมหาลัยไม่ว่าจะเป็นสองปี สี่ปี หรืออาจมากกว่านั้น เราจะใช้มันให้คุ้มค่าได้อย่างไร
             
               ก้าวแรกของการเข้ามาสู่รั้วมหาลัย ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเจอกับอะไร มีเพียงแต่เสียงกระสิบที่ว่า ลำบากนะ เหนื่อยนะ ยากนะ สิ่งเหล่านี้ได้เป็นเสียงที่ดังกระจายไปทั่วสำหรับเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในรั้วมหาลัยอย่างผม  สิ่งแรกที่ได้พบเจอคือ เพื่อนใหม่  การทักทายรอยยิ้มที่เขินอายของบุคคลที่ไม่รู้จักกัน เริ่มต้นขึ้น  การแนะนำตัวระหว่างบุคคลสองคน สามคน และหลายๆ คน ได้เพิ่มขึ้น ณ ที่แห่งนี้ จนกลายเป็นการพูดคุย  สิ่งที่ผมกลัวสิ่งที่สองนอกจากการเจอบุคคลที่เรียกว่าเพื่อนใหม่แล้ว เสียงกังวานในสมองของผมคือ การรับน้องใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีการกล่าวถึงกันมากในการเข้ามาสู่รั้วมหาลัย  บุคคลที่สำคัญในการรับน้องใหม่คือรุ่นพี่ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า เขาจะพยายามที่จะทักทาย โดยวิธีต่างๆ โดยไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นแบบไหน และน่ากลัวมากขนาดไหนจะเป็นเหมือนที่เสียงอ้างลือหรือไม่  ผมไม่อาจรู้ได้  การรับน้องใหม่เป็นการละลายพฤติกรรมของนักศึกษาใหม่ดังนั้นจึงรวมตัวของผมเองด้วย ที่มาจากต่างที่ต่างถิ่นให้รักและสามัคคีกัน เพื่อการอยู่ร่วมกันในรั้วมหาลัย จะมีการต้อนรับจากรุ่นพี่ในรูปแบบไหนนั้น ไม่มีใครสามารถรู้ได้ มีเพียงแต่กล่าวที่ว่า มาก่อนเป็นพี่  มาหลังเป็นน้อง มาพร้อมเป็นเพื่อน เป็นคำเตือนให้ผู้ที่เข้ามาใหม่ได้รับรู้และคำนึงอยู่ตลอดเวลาว่าต้องเคารพ และรู้สถานะของตัวเอง
                ช่วงเวลาที่ผ่านมาจากการรับน้อง การทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งด้านการเรียนและนันทนาการ ทำให้ผมเกิดความสนิทสนมระหว่างเพื่อนฝูง ทั้งนอกและในคณะมากขึ้น ช่วงระหว่างการนั้นจะมีทั้งเรื่องที่เหนื่อยยาก ลำบาก หรือแม้แต่ทุกข์ แต่ทุกอย่างมันย่อมผ่านไปได้ด้วยดี เพราะความช่วยเหลือจากทั้งเพื่อน รุ่นพี่ และที่สำคัญคณาจารย์ที่ค่อยแลเราอยู่ห่างๆ  ความช่วยเหลือทั้งด้านการเรียน กิจกรรม หรือแม้แต่เรื่องส่วนตัว ที่ได้รับจากบุคคลเหล่านี้ มันทำให้ผมรู้สึกมีความอบอุ่นอีกอย่างหนึ่งที่ถ้าไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง ก็จะไม่สามารถรับรู้มันได้เลย  มันเปรียบเสมือนอ้อมกอดจากครอบครัวซึ่งประกอบไปด้วยเพื่อนฝูง รุ่นพี่ และคณาจารย์ โดยมีรั้วมหาลัยเปรียบเสมือนบ้านเป็นเกราะป้อ
งกันจากภัยอันตรายต่าง ๆ ที่จะมาทำร้ายและเป็นบ่อเกิดที่จะทำให้เราอยู่ในรั้วมหาลัยนี้  ดังนั้น ช่วงเวลานี้ สิ่งเหล่านี้ ที่ผมเรียนรู้มันคือประสบการณ์ชีวิตในรั้วมหาลัย เพื่อนำไปใช้ในชีวิตจริงในสังคมต่อไป           
ข้างๆ พี่สาวคาบ
(อย่าคิดเป็นอย่างอื่นหล่ะ)
 หลายคนอาจจะคิดว่าการอยู่ในรั้วมหาลัยนั้นมันคงจะลำบาก น่ากลัวหรือสนุกสนาน อิสระ แต่ใครหลายคนอาจจะคิดถูกหรือก็ได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเมื่อเราเข้ามาในรั้วมหาลัยแล้ว เราจะเจอกับอะไร เพราะการเข้ามาในรั้วมหาลัยนั้นก็เหมือนเรากำลังนั่งดูหนังเรื่องหนึ่ง ซึ่งเราไม่อาจจะรู้ว่าตอนจบนั้นจะเป็นอย่างไร ดังนั้นเราก็จะต้องติดตามดูมันจนจบเพื่อจะได้รู้ว่าผลสุดท้าย เรื่องราวเหล่านี้จะจบที่นางเอกกับพระเอกจะรักกันไหมหรือว่าทั้งคู่จะตาย เหมือนการเข้าไปสู่รั้วมหาลัย ผลสุดท้ายตอนจบเราจะได้เป็นอย่างที่เราได้วาดฝันไว้ก่อนเข้ามาสู่รั้วมหาลัยหรือไม่ หรือว่าเราจะอยู่ต่อในสิ่งที่เรียกว่า รั้วมหาลัย
เพื่อนโผมเองคาบ เทพๆทั้งน้าน

1 ความคิดเห็น:

แทงคิ้วคับ ที่เข้ามาอุดหนุน